Friday, 24 March 2023

ทำไมเหตุขีปนาวุธตกในโปแลนด์จึงเป็นเรื่องใหญ่

เพราะเหตุใดเหตุขีปนาวุธตกใน โปแลนด์ จึงเกิดเรื่องใหญ่

เวทีการทูตระหว่างชาติกำลังอยู่ในความโกลาหลข้างหลังมีขีปนาวุธตกลงในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในโปแลนด์ที่ใกล้กับเขตแดนยูเครน ทำให้มีคนตาย 2 คน

เหตุนี้เกิดขึ้นภายหลังจากรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธจู่โจมยูเครนระลอกใหม่ทั้งประเทศเมื่อ 15 พฤศจิกายน เพียงไม่กี่วันหน้าจากถอนทหารออกมาจากเมืองแคร์ซอน

ปัจจุบันนี้หลายฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ต่างเร่งสอบสวนข้อพิสูจน์ที่เกิดขึ้น เหตุเพราะโปแลนด์เป็นหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรทางด้านการทหารนี้

อย่างไรก็ดี วันนี้ (17 พฤศจิกายน) เลขาธิการหน่วยงานนาโตให้สัมภาษณ์กับบีบีซีว่า ขีปนาวุธที่ตกในโปแลนด์ ทำให้มีคนตาย 2 คน คงจะมาจากฝั่งยูเครน

“มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นระบบขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานของยูเครน” เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต กล่าวกับบีบีซี พร้อมเสริมว่า กำลังปฏิบัติการไต่สวนถึงเหตุดังที่ได้กล่าวมาแล้วที่เกิดขึ้นใกล้กับเขตแดนยูเครน

โปแลนด์ รัสเซีย นาโต

แต่ว่าเขาย้ำว่า รัสเซียเป็นฝ่ายไม่ถูกรวมทั้งจำต้องรับผิดชอบต่อการรุกรานยูเครน ที่นำมาสู่สถานการณ์นี้

ด้านรัฐบาลยูเครนยืนกรานว่า ขีปนาวุธดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นของกองทัพรัสเซีย

“ผมเชื่อมั่นว่า นั่นไม่ใช่ขีปนาวุธของเรา” ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ประกาศสำหรับในการปราศรัยถ่ายทอดสดผ่านทีวี “ผมเชื่อว่านั่นเป็นอาวุธรัสเซีย ตามรายงานทางกองทัพของพวกเรา”

ผู้นำยูเครนยังชี้ว่า ยูเครนควรได้รับอนุญาตให้ร่วมในการไต่สวนถึงเหตุจู่โจมที่เกิดขึ้นห่าง 6 กิโล จากเขตแดนยูเครน

เกิดอะไรขึ้น?

ขีปนาวุธดังที่ได้กล่าวมาแล้วตกใส่หมู่บ้านเพรโวโดฟ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของโปแลนด์ ซึ่งอยู่ห่างจากเขตแดนยูเครนราว 6 ก.ม. เมื่อตอนเวลาเช้าวันที่ 15 พฤศจิกายน ก่อนหน้านี้ ทำให้คนงานชาวโปแลนด์สถานที่ทำงานในฟาร์มที่ขีปนาวุธตกใส่เสียชีวิต 2 คน

ในเบื้องต้นข้าราชการโปแลนด์กล่าวว่า ขีปนาวุธดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นชนิดที่ถูกผลิตขึ้นในรัสเซีย แม้กระนั้น รัสเซียไม่ยอมรับข้อกล่าวหานี้อย่างสิ้นเชิง โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซียบอกว่าข้อกล่าวหานี้เป็น “การจงใจยั่วยุให้สถานการณ์ร้ายแรงขึ้น”

นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียบอกว่ายังไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ ช่วงเวลาที่ Ria Novosti สำนักข่าวของทางการรัสเซียชี้ว่าขีปนาวุธดังที่ได้กล่าวมาแล้วเป็นของยูเครน

นายดมิโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนบอกว่า ข้อกล่าวหาว่ายูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดคราวนี้เป็น “แนวคิดสมคบคิด” ของรัสเซีย รวมทั้งผู้ที่ขยายเนื้อความนี้กำลังเผยแพร่ “โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย”

ช่วงเวลาที่ประธานาธิบดีอันเดรจ ดูดา ของโปแลนด์ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่าในเวลานี้ยังไม่รู้แจ่มกระจ่างว่าถึงเหตุที่เกิดขึ้น รวมทั้งทีมไต่สวนกำลังเร่งประเมินความน่าจะเป็นทั้งหมดทั้งปวง

“ขณะนี้เรายังไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าใครคือผู้ยิงขีปนาวุธลูกนี้…มีความเป็นไปได้สูงว่ามันคือขีปนาวุธที่ผลิตขึ้นโดยรัสเซีย แต่เรื่องนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน” เขากล่าว

อย่างไรก็แล้วแต่ เขาระบุในเวลาถัดมาว่า “มีความน่าจะเป็นมาก” ว่าขีปนาวุธดังที่ได้กล่าวมาแล้วมาจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน

ภาพที่เผยแพร่ทางออนไลน์บอกให้เห็นหลุมขนาดใหญ่ในรอบๆที่สื่อโปแลนด์กล่าวว่าเป็นพื้นที่เพาะปลูก ส่วนอีกรูปเปิดเผยให้มองเห็นเศษชิ้นส่วนขีปนาวุธ

ยูเครน รัสเซีย โปแลนด์ นาโต

โปแลนด์ กับ ปฏิกิริยาโลกเป็นอย่างไร

เหตุระเบิดคราวนี้เกิดขึ้นขณะที่บรรดาหัวหน้าโลกกำลังร่วมการสัมมนาจี 20 ที่เกาะบาหลีของอินโดนีเซีย

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน บอกว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่รัสเซียจะยิงขีปนาวุธลูกนี้ พร้อมเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีโปแลนด์แล้ว

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างข้อมูลจากข้าราชการสหรัฐฯ ผู้ไม่เปิดเผยนามหลายคนที่บอกว่า ข้อมูลในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าขีปนาวุธอาจมาจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครน ที่บากบั่นยิงสกัดขีปนาวุธที่รัสเซียยิงเข้าจู่โจม

ช่วงเวลาที่นายกรัฐมนตรี ริชี ซูแน็ก รายงานในงานแถลงข่าวที่ประชุมจี 20 ว่า สหราชอาณาจักรรวมทั้งผู้ส่งเสริมกำลังบากบั่นตรวจดูข้อพิสูจน์เกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น

แม้กระนั้น บรรดาผู้นำชาติตะวันตกที่ไปร่วมสัมมนาจี 20 ได้ออกแถลงการณ์ประณาม “การจู่โจมด้วยขีปนาวุธที่ทารุณโหดร้าย” ของรัสเซียต่อเมืองต่างๆทั่วยูเครน

ด้านจีนเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวอยู่ในความเงียบสงบรวมทั้งใช้ความอดทนอดกลั้นต่อเหตุที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย

ประธานาธิบดีอาลาร์ เคอริส ของเอสโตเนียบอกกับบีบีซีว่า มองดูเรื่องนี้เป็นเหตุที่พึ่งเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ว่าชี้ว่าสงครามคราวนี้จำต้องเลิกโดยเร็วที่สุด

ประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน ของตุรกีพูดว่า เคารพแถลงการณ์ของรัสเซียที่ไม่ยอมรับข้อกล่าวหาว่าเป็นผู้ยิงขีปนาวุธใส่ดินแดนโปแลนด์ รวมทั้งเชื่อว่ารัฐบาลรัสเซียไม่มีส่วนเกี่ยวในเรื่องนี้

นายเพกกา ฮาวิสโต รัฐมนตรีเมืองนอกฟินแลนด์บอกว่า เป็นเรื่องสำคัญที่จำต้องรู้รายละเอียดของเหตุที่เกิดขึ้น รวมทั้งจัดแจงเรื่องนี้อย่างเหมาะสม

ช่วงเวลาที่นางเออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปพูดว่าคณะผู้แทนกลุ่ม จี7 รวมทั้งนาโต พร้อมให้การช่วยเหลือโปแลนด์ในการไต่สวนเรื่องนี้

เพราะเหตุใดเหตุระเบิดคราวนี้จึงเกิดเรื่องใหญ่

เหตุเพราะโปแลนด์เป็นหนึ่งในสมาชิกของนาโต จึงทำให้กลุ่มพันธมิตรทางด้านการทหารนี้เฝ้าจับตาสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด โดยนักการทูตนาโตได้เรียกสัมมนารีบด่วนในกรุงบรัสเซลส์ในวันนี้ (16 พฤศจิกายน) เพื่อประเมินการรับมือกับกรณีที่เกิดขึ้น

นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตบอกว่า ได้คุยกับประธานาธิบดี ดูดา ของโปแลนด์แล้ว รวมทั้งนาโตกำลัง “เฝ้าติดตามสถานการณ์

หลายฝ่ายชี้ว่ากรณีที่เกิดขึ้นอาจจะทำให้โปแลนด์ขอความช่วยเหลือทางด้านการทหารจากนาโต

นายยาเซก เซียเวียรา หัวหน้าสำนักงานความมั่นคงยั่งยืนแห่งชาติโปแลนด์บอกว่า “พวกเรากำลังตรวจดูกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งพวกเราบางทีอาจใช้มาตรา 4”

มาตรา 4 ที่เขาระบุหมายความว่า ตามมาตรา 4 ของนาโต ที่บอกว่าชาติสมาชิกสามารถปรึกษาขอคำแนะนำต่อที่ประชุมนาโตถึงข้อวิตกกังวลว่ากรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยคุกคามต่อบูรณภาพแห่งดินแดน เอกราชทางด้านการเมือง หรือความมั่นคงยั่งยืนของชาติหรือไม่ ซึ่งหากเห็นตามว่าเป็นภัยคุกคามจริงก็จะเข้าหลักเกณฑ์ตามมาตรา 5 ที่ชาติสมาชิกนาโตทั้งหมดจำต้องเข้าร่วมกันปกป้องชาติสมาชิกที่ถูกจู่โจม

นาโตจะทำอะไรบ้าง

เลขาธิการนาโตให้คำมั่นว่า จะตอบโต้การจู่โจมครั้งใหญ่ของรัสเซียด้วยการ “ส่งมอบระบบต้านทานอากาศยานระดับสูงให้ยูเครน” ถึงแม้ว่ายูเครนจะไม่ได้เป็นสมาชิกนาโต

“วันนี้ ผมได้ร่วมการสัมมนากับกลุ่มที่เกื้อหนุนยูเครน ซึ่งล้วนเป็นผู้ส่งเสริมของนาโต เพื่อให้คำสัญญาว่าจะมอบระบบต้านทานอากาศยานระดับสูงให้ยูเครน เพื่อยิงสกัดอาวุธจากรัสเซีย” เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก กล่าว

“แต่หนทางที่ดีที่สุด เพื่อรับมือสถานการณ์นี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต คือ รัสเซียต้องยุติสงคราม”

“เราไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า นี่เป็นการตั้งใจโจมตีจากรัสเซีย” นายสโตลเทนเบิร์ก ระบุ พร้อมเสริมว่า “แต่ว่าไม่มีข้อสงสัยเลยว่า รัสเซียจำต้องรับผิดชอบ ด้วยเหตุว่าเหตุนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้ารัสเซียไม่ระดมยิงขีปนาวุธใส่หลายเมืองของยูเครนก่อน ราวกับที่ทำมาบ่อยครั้งแล้ว ตลอดสงครามครั้งนี้

ก่อนหน้าที่ผ่านมา ดร.เจมี เชีย สมัยก่อนรองผู้ช่วยเลขาธิการฝ่ายภัยคุกคามความมั่นคงฉุกเฉินของนาโต บอกว่า การรับมือของนาโตต่อกรณีที่เกิดขึ้นในโปแลนด์จะเป็นไปโดยอัตโนมัติไม่มากมายก็น้อย

เขาชี้แจงเรื่องนี้ว่า “โปแลนด์สามารถใช้มาตรา 4 เพื่อเรียกสัมมนานักการทูตนาโตได้พรุ่งนี้เช้าตรู่ (16 พฤศจิกายน)”

“แต่ว่าถึงแม้ว่าโปแลนด์จะไม่ทำแบบนั้น นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ก็บางทีอาจเรียกสัมมนาในทันทีหากพิจารณาว่าสถานการณ์มีความรุนแรง” เขากล่าว

ดร.เชีย กล่าวต่อว่า นาโตจะรอดูข้อพิสูจน์ทั้งหมดทั้งปวงที่โปแลนด์มีเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น “น่าสนใจที่กำลังจะได้รู้ดีว่าโปแลนด์จะขอให้ชาติพันธมิตรช่วยเหลืออะไรบ้าง ซึ่งการแสดงความเห็นหนึ่งเดียวกันเป็นสิ่งที่เป็นไปโดยอัตโนมัติ รวมทั้งผมแน่ใจว่านาโตจะมอบสิ่งนี้ให้แก่โปแลนด์”