Friday, 24 March 2023

ธุรกิจอสังหาฯ ใน “เมตาเวิร์ส” เฟื่องฟู นักลงทุนแห่ซื้อที่ดินโลกเสมือนจริง

 

รายงานวิจัยปัจจุบันเปิดเผยว่า ตลอดช่วง 12 เดือนที่ผ่านมาบรรดานักลงทุนทั้งโลกแห่กันเข้าซื้อจับจองที่ดินในโลกเสมือนจริงหรือ “เมตาเวิร์ส” (Metaverse) กันจำนวนไม่ใช่น้อย คิดเป็นมูลค่าเกือบจะ 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา แล้ว

ถึงแม้ยังมีความไม่เที่ยงสูงแล้วก็ต้องใช้เวลาอีกนานในการพัฒนาเมตาเวิร์ส เพื่อให้เป็นพื้นที่ออนไลน์เพียงอย่างเดียวซึ่งผู้คนสามารถดำเนินชีวิตแบบอวตารบนโลกเสมือน พบปะสนทนาพบปะ ทำงาน ทำกิจกรรมต่างๆด้วยกันได้ แต่ว่านักลงทุนพวกนี้ก็ยินดีทุ่มเงินก้อนโตเพื่อเก็งกำไรล่วงหน้า

แอนจี ทอมป์สัน ศิลปินจากเมืองไบรตันของอังกฤษ กลายเป็นนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์ส หลังซื้อที่ดินแปลงหนึ่งเมื่อเดือน เดือนกรกฎาคม ปี 2020 ในราคา 1,500 ปอนด์ (ราว 63,500 บาท) เพื่อสร้างแกเลอรีสองแห่งจัดโชว์งานศิลปะของตน รวมถึงเกื้อหนุนผลงานของเพื่อนฝูงศิลปินคนอื่นด้วย

ที่ดินของแอนจีอยู่ในโลกเสมือน “ว็อกเซลเวิลด์” (Voxel World) หนึ่งในแพลตฟอร์มเมตาเวิร์สที่คุณสามารถขายผลงานศิลปะดิจิทัลด้วยเงินคริปโตเคอเรนซีได้ แกเลอรีขนาดเท่าบ้านหลังเล็กของเธอสร้างเป็นอาคารสามชั้น แล้วก็มีดาดฟ้าให้ผู้มาเยือนขึ้นไปดูทิวทัศน์ทิวทัศน์

“เพียงกดปุ่ม F คุณก็จะสามารถบินขึ้นไปดูพื้นที่โดยรอบ ยังมีที่ดินอีกหลายแปลงในแถบนั้น เรียงติดกันเป็นพืดยาวไปกระทั่งถึงขอบฟ้า” แอนจีกล่าว

โลกเมตาเวิร์ส

นอกจาก “เมตา” (Meta) บริษัทแม่ของเฟซบุ๊กแล้วก็อินสตาแกรมแล้ว ปัจจุบันมีแพลตฟอร์ม เมตาเวิร์ส ของอีกหลายบริษัทซึ่งเปิดขายที่ดินในโลกเสมือนจริงอยู่

โดยบริษัทวิเคราะห์ข้อมูล Dapp Radar กล่าวว่า ตลอดช่วงหนึ่งปีให้หลังมีนักลงทุนซื้อที่ดินในเมตาเวิร์สเหล่านี้แล้วทั้งสิ้น 1,930 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ในจำนวนนี้ราว 22 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ถูกนำไปซื้อที่ดิน 33 แปลงในว็อกเซลเวิลด์

ข้อมูลดังที่กล่าวถึงมาแล้วถูกเผยเนื่องจากว่ามีการใช้เงินคริปโตฯ สกุลอีคุณเรียม (Ethereum) สำหรับในการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ดินเสมือนจริง ทำให้มีการบันทึกข้อมูลเอาไว้แล้วก็เผยสู่สาธารณะผ่านทางบล็อกศาสนาเชน

โลกเมตาเวิร์สที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนอีกแห่งหนึ่งก็เป็น “ดีเซนทราแลนด์” (Decentraland) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2020 ที่ดินเสมือนจริงแห่งนี้ถูกบอกขายในราคาตั้งแต่หลายพันไปจนถึงหลายล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ทำให้มีบริษัทดังอย่างซัมซุง (Sumsung) ยูพีเอส (UPS) แล้วก็สำนักประมูลซอธบีส์ (Sotheby’s) สนใจเข้าซื้อเพื่อสร้างร้านค้าแล้วก็ศูนย์บริการลูกค้าในโลกเสมือนจริงดังที่กล่าวถึงมาแล้ว

ผลิตภัณฑ์แฟชั่นแบรนด์หรู “ฟิลิปป์ ไพลน์” (Philipp Plein) ได้เข้าจับจองที่ดินขนาด 4 สนามฟุตบอลในดีเซนทราแลนด์ด้วย เพื่อจัดเตรียมปรับปรุงเป็นร้านค้าแล้วก็แกเลอรีเสมือนจริงในอนาคต

ดีไซเนอร์ผู้ครอบครองแบรนด์นี้กล่าวว่า แม่ของเขาไม่เห็นพ้องอย่างยิ่งที่เขาทุ่มเงินในการนี้ไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา “แม่ผมโทรมาด่าว่า เอ็งทำอะไรของแก ? บ้าไปแล้วหรอ ? ทำไมใช้เงินเยอะแยะขนาดนี้…นี่มันอะไรกัน ?”

ที่จริงแล้ว “ฟิลิปป์ ไพลน์” ขายผลิตภัณฑ์ทางออนไลน์ที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินคริปโตฯ ถึง 24 สกุล มานานกว่าหนึ่งปีแล้ว แล้วก็เมื่อต้นปี 2022 เขายังเปิดร้านใหญ่บนถนน Old Bond Street ของกรุงลอนดอน ซึ่งขายทั้งเสื้อผ้าแล้วก็ผลิตภัณฑ์เอ็นเอฟที (Non-Fungible Tokens – NFTs) ซึ่งลูกค้าสามารถจ่ายด้วยเงินสด หรือเลือกจ่ายด้วยเหรียญคริปโตฯ อย่างบิตคอยน์หรืออีเธอเรียมก็ได้

“ผมกล้าเปิดร้านนี้เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเมตาเวิร์สให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ ผมกล้าทุ่มเงินซื้อที่ดินในโลกเสมือนจริง เพราะเหตุว่าแบรนด์ของผมนั้นอยู่มานานถึง 24 ปีแล้ว ผมมีความรู้สึกว่าจะทำยังไง ถ้าในอนาคตเราต้องเริ่มใหม่ทั้งปวง” ฟิลิปป์ ไพลน์ กล่าว

แพลตฟอร์มเมตาเวิร์ส

อย่างไรก็แล้วแต่ Dapp Radar รายงานด้วยว่า การที่เงินคริปโตฯ มีมูลค่าลดฮวบลงอย่างถล่มทลายในปีนี้

ทำให้มูลค่าปัจจุบันของอสังหาริมทรัพย์ในโลกเมตาเวิร์สตกต่ำเป็นประวัติการณ์ โดยเฉียดฉิวใกล้ระดับที่ถือว่าต่ำสุดในรอบหนึ่งปีแล้ว

ด้าน “แซนด์บ็อกซ์” (Sandbox) แพลตฟอร์มเมตาเวิร์สอีกแห่งหนึ่ง ก็มีผลิตภัณฑ์แล้วก็กิจการเจ้าดังอย่างอาดิดาส (Adidas),อาตาริ (Atari), กุชชี (Gucci), ยูบิซอฟต์ (Ubisoft), ไบแนนซ์ (Binance) และวอร์เนอร์ มิวสิก (Warner Music) พากันเข้าจับจองเป็นเจ้าของที่ดินเสมือนจริงเช่นเดียวกัน

ในกรณีของกุชชีนั้น มีการลงทุนสร้างร้านค้าในโลกเกมออนไลน์ Roblox มาก่อนแล้ว ทั้งยังลงทุนในแบบเดียวกันที่แพลตฟอร์มเกมอื่นๆอย่าง Minecraft แล้วก็ Fortnite อีกด้วย เนื่องจากว่าโลกเสมือนจริงของเกมพวกนี้มีคุณลักษณะความเป็นเมตาเวิร์สอยู่อย่างสมบูรณ์เพียบพร้อม ไม่ว่าจะเป็นการมีชุมชนคนเล่นเกมขนาดใหญ่ ที่คนไม่ใช่น้อยพร้อมเข้ามาเล่นแล้วก็ฝังตัวอยู่ในเกมเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน อีกทั้งมีสกุลเงินของตนแล้วก็มีโอกาสทำเงินหรือใช้รายได้ในตัวเองอยู่แล้ว

ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีให้หลัง “กุชชีทาวน์” (Gucci Town) ซึ่งเป็นร้านในโลกเสมือนจริงของเกมออนไลน์ มีผู้มาเยือนถึง 36 ล้านคน โดยลูกค้าสามารถใช้เงินจริงซื้อผลิตภัณฑ์พวกเสื้อผ้าเครื่องเพชรพลอยให้กับอวตารของตนได้ ส่วนร้านค้าในเกมออนไลน์ของไนกี (Nike) มีลูกค้าเข้ามาซื้อเสื้อยืดแล้วก็รองเท้าแบบเสมือนจริงไปถึง 25 ล้านคน ในช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา

ดูอย่างกับว่าอุตสาหกรรมแฟชั่นจะเป็นธุรกิจที่ให้ความสนใจกับช่องทางใหม่ๆที่มากับเมตาเวิร์สมากที่สุด อีกทั้งเป็นกรุ๊ปที่กล้ารับความเสี่ยงจากความไม่เที่ยงทางเทคโนโลยีเยอะที่สุดด้วยเช่นเดียวกัน

กิจการที่ขายของแฟชั่นสำหรับโลกออนไลน์เพียงอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น The Fabricant มุ่งผลิตผลิตภัณฑ์จำพวกเสื้อผ้าแล้วก็เครื่องเพชรพลอยสำหรับอวตารสวมใส่โดยยิ่งไปกว่านั้น เพื่อนำออกจำหน่ายในดีเซนทราแลนด์ แซนด์บ็อกซ์ แล้วก็โลกเมตาเวิร์สที่ใช้เงินคริปโตฯ อื่นๆ

แอมเบอร์ แจ สลูเทน หัวหน้าดีไซเนอร์แล้วก็ผู้ร่วมก่อตั้งกิจการ The Fabricant กล่าวว่า “ในเวลาที่เราเปิดบริษัทใหม่ๆผู้คนคิดว่าเราบ้า พวกเขามีความรู้สึกว่าคนไหนกันที่จะซื้อสิ่งของเสมือนจริงพวกนี้ แม้กระนั้นเราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตผู้คนจะสวมใส่ผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของเรา”

ปัจจุบัน The Fabricant เพิ่งขายชุดราตรีลูกไม้ดิจิทัลไปได้เพียงแค่ชุดเดียว โดยคิดเป็นมูลค่า 19,000 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (ราว 715,000 บาท) ซึ่งเป็นการขายในรูปแบบของผลงานศิลปะดิจิทัลหรือ NFT แล้วก็คนซื้อผลงานไม่ได้นำไปให้อวตารของตนเองสวมใส่แต่อย่างใด

แม้กระนั้นทั้งนี้ทั้งนั้น มีบุคคลที่เชื่อมั่นในแนวคิดเมตาเวิร์สแล้วก็ช่องทางทางธุรกิจแห่งอนาคตในโลกเสมือนจริงอยู่ไม่น้อย ปัจจุบัน The Fabricant สามารถระดมทุนจากผู้พึงพอใจทั้งโลกได้ถึง 14 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เลยทีเดียว

แต่ว่าวันที่เมตาเวิร์สจะกลายเป็นโลกที่ผู้คนใช้ดำเนินชีวิตอยู่เป็นหลักนั้น ไม่มีผู้ใดทราบดีว่าจะมาถึงเมื่อใดแน่ ทุกวันนี้แพลตฟอร์มโลกเสมือนจริงที่ใช้เงินคริปโตฯ ยังมีผู้มาเยือนลูกค้าประจำแล้วก็ผู้ที่ลงหลักปักฐานสร้างธุรกิจเพียงกระจายไม่กี่พันราย ยกเว้นในเวลาที่มีการจัดงานมหกรรมทางออนไลน์ครั้งใหญ่ๆเพียงแค่นั้น ก็เลยจะมีผู้มาเยือนหลักล้าน

แม้กระทั้งแพลตฟอร์มของ “เมตา” เอง ที่ทุ่มทุนปรับปรุงไปหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ก็ยังมีข่าวรั่วไหลออกมาจากด้านในบริษัทว่า ผู้คนไม่ค่อยให้ความสนใจเข้าไปเยี่ยมโลกเสมือนจริงแห่งนี้ และมักอยู่ไม่นานในแต่ละครั้ง

อย่างไรก็แล้วแต่ สลูเทนยังเชื่อมั่นว่า “เมื่อมีการปรับปรุงไปมากขึ้น ผู้คนจะเริ่มเข้ามาแล้วก็จะกำเนิดตลาดขนาดใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย ทดลองนึกถึงหนุ่มสาวแบบใหม่ที่เล่นเกมออนไลน์อยู่แล้ว สำหรับพวกเขาไม่มีการแบ่งแยกระหว่างโลกจริงแล้วก็โลกเสมือน แต่ว่าเราต้องสร้างมันขึ้นมาก่อน”

Metaverse