Friday, 24 March 2023

โรคอ้วน : การเหยียดรูปร่างในอินเดียเพิ่ม ขณะประชากรมีน้ำหนักตัวเกินปกติราว 135 ล้านคน

 

โรคอ้วนในอินเดีย เมื่อเร็วๆนี้ รัฐมนตรีคนหนึ่งในเมืองเกรละของอินเดียได้โพสต์เรื่องราวทางเฟซบุ๊กบอกเล่าประสบการณ์ที่เขาถูกเหยียดหยามรูปร่าง ซึ่งกำลังคือปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในอินเดีย

วี ศิวานกุตตี รัฐมนตรีทางการศึกษาของเมืองเกรละ เล่าว่าเมื่อไม่กี่วันก่อนเขาได้โพสต์ภาพที่ถ่ายกับนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ต่อจากนั้นมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กคนหนึ่งเข้าไปคอมเมนต์ว่า คุณควรจะลดท้องลงสักหน่อย

คนอ้วนในอินเดีย โรคอ้วน

โรคอ้วนในอินเดีย ศิวานากุตตี ส่งข้อความตอบกลับว่า การเหยียดรูปร่างคนอื่นเป็น “การกระทำที่น่ารังเกียจ”

“การเหยียดรูปร่างเป็นสิ่งเลวร้ายที่สุด ไม่ว่าจะมีคำอธิบายอย่างไรก็ตาม นี่คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในทุกระดับชั้นของสังคมเรา มีพวกเราหลายคนตกเป็นเหยื่อการถูกเหยียดรูปร่างจนถึงขั้นที่ได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจ” เขาระบุ “เราต้องยุติการเหยียดรูปร่าง จงเป็นคนที่มีแนวคิดสมัยใหม่” ศิวานากุตตีกล่าวทิ้งท้าย

ศิวานากุตตี เล่าให้บีบีซีฟังว่า กรณีที่เกิดขึ้นทำให้เขาได้ตระหนักว่าการเหยียดรูปร่างเป็นปัญหาที่อันตรายเพียงใด พร้อมชี้ว่า รัฐบาลระดับรัฐควรรณรงค์ให้เด็กนักเรียนและครูได้เรียนรู้เรื่องนี้ โดยบรรจุเป็นหลักสูตรการเรียนในสถาบันต่าง ๆ

ข้อคิดเห็นของศิวานากุตตี บวกกับหนังบอลลีวูดเรื่องล่าสุดที่ชื่อ Double XL ได้จุดข้อความสำคัญร้อนในสังคมอินเดียที่ผู้คนมักถือวิสาสะวิจารณ์รูปร่างหน้าตาของผู้อื่นโดยไม่นึกถึงความรู้สึกของผู้ที่ถูกวิภาควิจารณ์

ภาพยนตร์เรื่องนี้นำแสดงโดยสองศิลปินสาว ฮูมา กุเรษี แล้วก็โสนากษี สินหา ซึ่งเคยเล่าถึงประสบการณ์เป็นเหยื่อการเหยียดรูปร่างมาแล้ว โดยสินหามักถูกรังแกทางเครือข่ายสังคมจาก เรื่อง น้ำหนัก ตัว ในเวลาที่กุเรษี เคยถูกนักวิจารณ์กล่าวว่า “เธอ น้ำหนักตัว เกินกว่า ที่จะรับบทวีรสตรีมา 5 กิโลกรัม”

ซาตรัม รามานี ผู้กำกับเรื่อง Double XL บอกกับบีบีซีว่า ภาพยนตร์ เรื่องนี้ มี เนื้อหา เกี่ยวกับ สาวเจ้า เนื้อ 2 คน ที่ พบว่า น้ำหนัก ตัว ของ พวกเธอ เป็น อุปสรรค ต่อ ความฝัน และ พยายาม หาวิธี ก้าวข้าม ปัญหานี้

รามานี เล่าว่า “ผม เคย เห็น คน ที่ เต็ม ไป ด้วย พรสวรรค์ เผชิญ การดูถูก เพราะ น้ำหนักตัว ของ พวก เขา นี่เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้เลย”

นักวิจารณ์ผู้คนจำนวนมากชี้ว่า อุตสาหกรรมหนังบอลลีวูดคือส่วนหนึ่งที่สร้างความนิยมให้ชาวอินเดียคิดว่าความอ้วนคือสิ่งสะอิดสะเอียน แล้วก็ความผอมคือสิ่งงดงาม

รามานี บอกว่า หนังเรื่อง Double XL ต้องการสื่อให้คนในสังคม “ยอมรับความงามของตัวเอง ไม่ว่าจะมีรูปร่าง ขนาด หรือสีผิวอะไร”

หากแม้ Double XL จะ ทำรายได้ ไม่ดี เท่า หนัง บอลลีวูด เรื่อง อื่นที่เน้นย้ำการร้อง เล่น เต้นรำ แต่ว่ารามานีกล่าวว่าเขาดีใจที่สังคมกำลังกล่าวถึงปัญหาการเหยียดรูปร่าง ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกไม่ใช่เพียงแค่ที่อินเดีย

นี่คือปัญหาที่ ฮาร์นิดห์ กอร์ นักประพันธ์พลัสไซส์จำเป็นต้องพบเจอ แล้วก็เขียนเล่าราวของเธอลงในคอลัมน์แล้วก็เครือข่ายสังคม

กอร์กล่าวว่า การเหยียดรูปร่างเกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย

เพราะ ชาวอินเดียโดยมากไม่เคยรู้ขอบเขต แล้วก็ในครอบครัวของเราทุกคนต่างวิภาควิจารณ์รูปร่างหน้าตาของกันและกัน

เธอชี้ว่าหากแม้ปัญหานี้จะเกิดขึ้นกับคนทุกเพศ แต่ว่าเพศหญิงเป็นข้างที่ได้รับผลกระทบเยอะที่สุด เพราะเพศหญิงมักถูกตัดสินว่ามีคุณลักษณะเหมาะสำหรับการสมรสหรือเปล่า แล้วก็สาวอ้วนมักเป็นตัวเลือกท้ายๆในเรื่องนี้

กอร์ เล่าว่าเธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีสภาวะถุงน้ำในรังไข่หลายใบ (polycystic ovary syndrome หรือ PCOS) ตอนอายุ 12 ปี ทำให้เติบโตมากับการถูกล้อเลียนเรื่องน้ำหนักตัว เพราะสภาวะนี้ทำให้คนไข้มีน้ำหนักเพิ่ม ประจำเดือนมาไม่ดีเหมือนปกติ แล้วก็มีปัญหาผมตก

นักประพันธ์หญิงรายนี้กล่าวว่า หากแม้หลายครั้งการเหยียดรูปร่างจะเกิดจากเจตนาดีของคนที่อาศัยอยู่ในครอบครัวที่มีความปรารถนาดีในสุขภาพ แต่ว่าเธอพบว่าทัศนคติของคนเราในเรื่องนี้ทำให้เกิดการเลือกปฏิบัติด้วย เพราะคนโดยมากมักคิดว่าคนอ้วนมีนิสัยเกียจคร้านและไม่มีวินัย ทำให้พวกเขาถูกกัดกันในตลาดงาน

เธอยกตัวอย่างเพิ่มว่า

“ตอนที่ฉันไปโรงพยาบาลเพราะเป็นภูมิแพ้ แต่หมอกลับพูดว่าที่ฉันหายใจไม่ออกเพราะฉันอ้วนเกินไป และตอนที่ฉันข้อเท้าหัก หมอพูดว่าฉันคงจะกระดูกไม่หัก ถ้าน้ำหนักตัวไม่มากขนาดนี้”

พญ.จิตรา เสลวาน ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านโรคต่อมไร้ท่อกล่าวว่า แพทย์ ไม่ได้รับการฝึกอบรมที่ดีพอเพียงเรื่องศิลป์การสื่อสาร แล้วก็เมื่อพูดถึงการเหยียดรูปร่าง แพทย์หลายคนคิดว่าแนวทางแบบนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนป่วยบากบั่นลดน้ำหนัก

เธอชี้ว่า การเหยียดรูปร่างบางทีอาจก่อให้เกิดผลกระทบรุนแรงด้านสังคมแล้วก็ทางจิตใจ เพราะการถูกตำหนิเรื่องน้ำหนักตัวอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั้นส่งผลต่อการเห็นคุณค่าในตัวเองแล้วก็สุขภาพเกี่ยวกับจิต ซึ่งบางทีอาจทำให้เกิดปัญหา ความประพฤติการกินอาหารไม่ดีเหมือนปกติ (eating disorder) แล้วก็ทำให้รู้สึกแตกต่างจากสังคม จนกระทั่งแปลงเป็นคนเก็บตัว

พญ.เสลวาน กล่าวว่า การตำหนิคนป่วยที่มีน้ำหนักเกินเป็นแนวทางที่ใช้ไม่ได้ผล แล้วก็อาจจะก่อให้คนป่วยกลุ่มนี้ไม่กล้าขอร้องจากแพทย์อีก

เธอชี้ว่า เหตุการณ์นี้บางทีอาจรุนแรงขึ้น เพราะปัจจุบันนี้อินเดียมีประชากรที่น้ำหนักตัวเกินหรือเป็นโรคอ้วนราว 135 ล้านคน ข้อมูลที่ได้มาจากรัฐบาลแล้วก็องค์การอนามัยโลกระบุว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นอีก โดยที่แพทย์ผู้คนจำนวนมากเตือนถึงวิกฤตโรคอ้วนที่จะทวีความร้ายแรงขึ้นในอินเดีย

พญ.เสลวาน กล่าวว่า ปัญหาน้ำหนักตัวเกินไม่ได้เกิดจากการเลือกรับประทานอาหารผิดจำเป็นต้องแค่นั้น แต่สภาวะนี้มีความสลับซับซ้อน เพราะบางทีอาจเกิดจากหลายต้นเหตุร่วมกัน อย่างเช่น ฮอร์โมน แล้วก็ความเคร่งเครียด ด้วยเหตุนั้นจึงถึงเวลาแล้วที่แพทย์แล้วก็สังคมจะต้องเลิกความประพฤติเหยียดรูปร่างของคนอ้วน